วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 13

วันอังคาร ที่ 13 กันยายน 2554

วันนี้อาจารย์ให้ส่งแผนกลุ่ม โดย กลุ่มของดิฉัน เขียนแผน เรื่องหน่วยเรื่องไข่ และอาจารย์ถามว่าเรื่องที่เราเอามานั้นเอามาจากไหน หัวข้อเรื่องที่เราจะนำมาสอนเราก็ต้องดูจาก สาระการเรียนรู้ ซึ่งประกอบไปด้วย
1.สิ่งที่อยู่รอบตัวเด็ก
2.เรื่องราวเกี่ยวกับเด็ก
3.บุคคลและสถานที่
4.ธรรมชาติรอบตัว
และในแผนการสอนมีส่วนประกอบอะไรบ้างที่เด็กต้องเรียนรู้ สิ่งที่เด็กต้องเรียนรู้ มีดังนี้
1.วัตถุประสงค์
2.สาระการเรียนรู้ ประกอบไปด้วย
-ประสบการณ์สำคัญ
-สาระที่ควรเรียนรู้
4.กิจกรรมการสอน
-ขั้นนำ
-ขั้นสอน
-ขั้นสรุป
สมรรถณะของเด็กประกอบไปด้วย
1.ด้านร่างกาย เช่น การปีนป่าย กิจกรรมการเคลื่อนไหว
2.อารมณ์/จิตใจ : แสดงความรู้สึก รับรู้ การกระทำ
3.สังคม เช่น การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น แบ่งปัน
4.ภาษา เช่น การพูด การสื่อสาร
5.วิทยาศาสตร์ เช่น การให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
6.คณิตศาสตร์ เช่น การชั่ง วัด ตวง การคาดคะเน
7สร้างสรรค์ เช่น การทำงานศิลปะสร้างสรรค์ การปั้นแป้งโด
ประสบการณ์สำคัญของเด็กประกอบไปด้วย
1.กิจกรรมการเคลื่อนไหว
2.กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ( ด้านสติปัญญา ทักษะที่สำคัญ )
3.กิจกรรมกลางแจ้ง
4.กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
5.กิจกรรมเสรี
6.กิจกรรมเกมการศึกษา

บันทึกการเข้าครั้งที่ 12

วันอังคาร ที่ 6 กันยายน 2554

..วันนี้ส่งงานการทำโครงการ
อาจารย์ให้ดูซีดีเรื่องมหัศจรรย์ของน้ำ: ความรู้ที่ได้วันนี้
น้ำ เป็นส่วนประกอบของร่างกาย อากาศมีความเกี่ยวข้องกับร่างกายเพราะเนื่องจากอากาศร้อนมากทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมากดังนั้นเราควรดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้วต่อวัน
สิ่งมีชีวิตต่า ๆ ในโลกมีส่วนประกอบของน้ำหรือไม่
วิธีการทดลอง
1.หาผลไม้พืชผักต่าง ๆ เช่น แอปเปิ้ล แครอท
2.นำมีดมาหันผลไม้เป้นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใช้เครื่องบดให้ละเอียด
3.แล้วลองบีบดูจะเห็นว่าน้ำออกมาจากผลไม้
จะเห็นได้ว่า น้ำจะมีส่วนประกอบในสิ่งมีชีวิต ร่างกายของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ 70 % ผักและผลไม้มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 90 % ดังนั้นถ้าคนขาดน้ำจะทำให้รางกายอ่อนเพลีย
ฝนตกจะเกิดจากอะไร
คุณสมบัติของน้ำมี 3 ประการ คือ
1.ของแข็งคือ น้ำแข็ง
2.ของเหลวคือ น้ำที่เราดื่มและใช้อาบทุกวัน
3.ก๊าซคือ ไอน้ำ
น้ำสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งกลายเป็นของเหลว จากของเหลวกลายเป็นไอ จากไอกลายเป็นของเหลว
วิธีการทดลองการเปลี่ยนสถานะของน้ำ
1.เริ่มแรกต้มน้ำแข็งให้เดือด น้ำแข็งจะละลายกลายเป็นของเหลว
2.ต้มต่อไปจนมีไอขึ้นมา จากนั้นก็เอาจานใส่น้ำแข็งมาวางไว้บนน้ำที่เราต้มระยะห่างพอสมควร
จะเห็นได้ว่าการเกิดฝนมีลักษณะเหมือนกับการทดลอง ฝนก็คือไอน้ำที่เระเหยขึ้นไปบนอากาศ รวมตัวกันกลายเป็นก้อนเมฆและตกลงมาเป็นฝนสู่พื้นดิน
แอ่งน้ำที่เกิดขึ้นหลังฝนตกแห้งได้อย่างไร
วิธีการทดลอง
1.นำน้ำที่มีปริมาตรเท่ากัน 2 แก้ว
2.แก้วที่ 1 เทลงใส่จาน
แก้วที่ 2 เทลงใส่จาน
3.นำไปตากแดดจะเห็นว่าน้ำในจานแห้งเกือบหมด แต่ในแก้วลดลงนิดเดียว
ดังนั้นแอ่งน้ำที่เกิดขึ้นเมื่อหลังฝนตกจะแห้งไปเมื่อโดนความร้อนของแสงแดด
ธรรมชาติของน้ำ
เมื่อนำกลายเป็นน้ำแข็งจะขยายตัว 12 %
วิธีการทดลอง
1.นำน้ำใส่ลงในแก้วไม่ต้องเต็ม เอากระดาษปิดไว้
2.เมื่อนำไปแช่ในตู้เย็นจะเห็นว่ากลายเป้นน้ำแข็งเต็มแก้วเพราะน้ำแข็งมีโมเลกุลน้อยกว่าน้ำหรือน้ำมีโมเลกุลหนาแน่นกว่าน้ำแข็ง
แรงดันของน้ำ
วิธีการทดลอง
1.เจาะรูที่ขวด 3 รูระดับไม่เท่ากันแล้วเอาเทปกาวแปะไว้
2.จากนั้นเอาน้ำใส่ให้เต็มขวด แล้วเปิดรูที่เจาะไว้ จะเห็นได้ว่าน้ำจากรูด้านล่างจะพุ่งแรงสุดเนื่องจากความกดดันของน้ำด้านบนกดลงมาจากการทดลอง น้ำที่อยู่ด้านล่างจะถูกกดดันจากน้ำด้านบน ถ้าเราอยู่ในน้ำที่ลึกมากความกดดันจะยิ่งมากขึ้น

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 11


วันอังคาร ที่ 30 สิงหาคม 25

.สำหรับยการเรียนการสอนในวันนี้วันอาจารย์และนักศึกษาได้ร่วมสนทนา อภิปราย ซักถาม
เกี่ยวกับการทำประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ที่ทำจากวัสดุเหลือใช้ หาได้ง่ายและอาจารย์ได้มอบหมายงาน
ให้กลับไปทำเป็นการบ้านคือ ให้นักศึกษาจับคู่ 2 คน ทำสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์จาก
แกนกระดาษทิชชูและให้นักศึกษาจับกลุ่ม ๆละ 4-5คน เขียนเรื่องในการจัดการเรียนการสอน
แบบโครงการ ซึ่งงาทั้ง 2ชิ้นส่งในครั้งต่อไป
.ส่วนบรรยากาศในการเรียนการสอนวันนี้
นักศึกษาให้ความสนใจค่อยข้างมาก ตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน ไม่ค่อยคุยกัน
นักศึกษษและอาจารย์มีความเป็นกันเอง